วิธีการสร้างกำไรให้เพิ่มขึ้น จากการเลือกซื้อเครื่องพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์อย่างถูกต้องและชาญฉลาด
สินค้าที่วางกลาดเกลื่อนในท้องตลาด ทุกผลิตภัณฑ์ถูกบังคับตามกฏหมายให้ต้องพิมพ์วันเดือนปีที่ผลิต-วันหมดอายุให้ชัดเจน ผู้ผลิตแต่ละเจ้า ต่างสรรหาเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์ของตัวเอง โดยส่วนใหญ่จะคำนึงถึงความสวยงามของคุณภาพการพิมพ์ การใช้งานง่าย การดูแลรักษาที่ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญต้นทุนต้องต่ำ
หากจะคำนวณถึงต้นทุนที่ต่ำสุด เมื่อเปรียบเทียบกันในระยะยาว เครื่องยิงเลเซอร์ (Packaging Laser) ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการที่เลือกนำมาใช้ในการผลิต ทั้งยังให้ความสวยงามของคุณภาพการพิมพ์หรือมาร์ค การใช้งานที่แสนจะง่าย การดูแลรักษาก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร
ในระหว่างการใช้งานื แทบไม่มีสินค้าสิ้นเปลืองใดที่ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายในแต่ละเดือน (Consumables) เครื่องยิงเลเซอร์มีเพียงแค่หลอดกำเนิดแสง (Laser Tube) เท่านั้น ที่จะต้องเปลี่ยนเมื่อหมดอายุการใช้งาน โดยส่วนใหญ่จะมีอายุตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่อง ซึ่งบางชนิดนานมากกว่า 10 ปี เมื่อนำมาคำนวนต้นทุนแล้วย่อมส่งผลให้ผู้ประกอบการมีกำไรมากขึ้น
เครื่องพิมพ์เลเซอร์มีหลายประเภทให้เลือกใช้ ทั้ง CO2 Laser, Fiber Lases, YAG Laser และ UV Laser คุณสมบัติจะแตกต่างกันออกไป สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับชนิดของผลิตภัณฑ์และพื้นผิว
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Packaing and Industrial Laser) เริ่มมีการขยายตัวในตลาดบ้านเรามากขึ้น มีผู้ผลิตจำนวนมากที่หันมาให้ความสนใจและอยากใช้ระบบนี้กันมากขึ้น ด้วยเล่งเห็นถึงผลลัพธ์และประโยชน์ตอบแทน ที่จะเป็นทางสร้างกำไรให้แก่ธุรกิจนั่นเอง